ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จัดพิธีขึ้นระวางเรือ "ท่าเรือ ๓๐๕" และ "ท่าเรือ ๓๐๖"ยกระดับบริการลากจูงเรือสินค้าขนาดใหญ่ - วิถีชุมชนคนสร้างเมือง

Post Top Ad

Responsive Ads Here

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จัดพิธีขึ้นระวางเรือ "ท่าเรือ ๓๐๕" และ "ท่าเรือ ๓๐๖"ยกระดับบริการลากจูงเรือสินค้าขนาดใหญ่

 
     เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2561 ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้จัดให้มีพิธีขึ้นระวางเรือ “ท่าเรือ ๓๐๕”และ "ท่าเรือ ๓๐๖"  ณ ท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี พลเอก วิวรรธน์ สุชาติ กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมผู้บริหารและพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย, กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี เครสท์ มารีน จำกัด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม โดยมี ร.ต.ต. มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง คอยให้การต้อนรับพร้อมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการต่อเรือทั้ง 2 ลำ ว่าเป็นไปตามนโยบายของการท่าเรือแห่งประเทศไทย


โดยได้จ้างเหมาให้ บริษัท ซี เครสท์ มารีน จำกัด ต่อเรือลากจูงขนาดกำลังฉุดไม่น้อยกว่า 50 เมตริกตัน จำนวน 2 ลำ ชื่อเรือ "ท่าเรือ ๓๐๕" (สาม-ศูนย์-ห้า) และ "ท่าเรือ ๓๐๖" (สาม-ศูนย์-หก) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลากจูงเรือสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งการต่อเรือเป็นไปตามแผนงานการต่อเรือที่กำหนดไว้เป็นที่เรียบร้อยแห่งสัญญา ๓๐๕ ทุกประการ จนสามารถประกอบพิธีขึ้นระวางเรือได้สำเร็จ


สำหรับเรือ "ท่าเรือ ๓๐๕" (สาม-ศูนย์-ห้า) และ "ท่าเรือ ๓๐๖" (สาม-ศูนย์-หก) เป็นเรือที่มีขนาดกำลังฉุดไม่น้อยกว่า 50 เมตริกตัน มีขนาดความยาวตลอดลำ 32.0 เมตร ความกว้าง 11.5 เมตร ตันกรอส 521.00 ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 12 นอต และยังเป็นเรือที่ติดตั้งระบบการบังคับเรือที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการให้บริการลากจูงเรือสินค้าขนาดใหญ่ให้สามารถเข้าเทียบท่าและออกจากท่าเทียบเรือได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตอบสนองการให้บริการในฐานะองค์กรสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการขนส่งทางน้ำ มุ่งสู่การเป็นประตูการค้าหลักของประเทศที่มีการให้บริการที่เป็นเลิศ เพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจและการแข่งขันได้ในระดับสากล 

ขณะที่ พลเอก วิวรรธน์ สุชาติ กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การขนส่งสินค้าทางทะเลมีความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจการค้าของประเทศ ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จนเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ 
“การดำเนินการต่อเรือลากจูงใหม่ทั้ง 2 ลำ แล้วเสร็จตามกำหนด พร้อมใช้ในภารกิจเพื่อความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ อันจะเป็นการสนับสนุนการขนส่งทางน้ำ ตลอดจนระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้เป็นอย่างดี ” พลเอก วิวรรธน์ กล่าว



โจ ลำน้ำปิง/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here